ข่าว

ข่าว

ข้อควรระวังในการใช้กำมะถันดำ

กำมะถันดำ 240%เป็นสารประกอบโมเลกุลสูงที่มีกำมะถันสูง โครงสร้างประกอบด้วยพันธะไดซัลไฟด์และพันธะโพลีซัลไฟด์ จึงไม่เสถียรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พันธะโพลีซัลไฟด์สามารถถูกออกซิไดซ์เป็นซัลเฟอร์ออกไซด์โดยออกซิเจนในอากาศภายใต้สภาวะอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม และยังสามารถเกิดปฏิกิริยากับโมเลกุลของน้ำในอากาศเพื่อสร้างกรดซัลฟิวริก ส่งผลให้ความแข็งแรงของเส้นด้ายลดลง ความเปราะของเส้นใยลดลง และเส้นใยทั้งหมดจะเปราะเป็นผงเมื่อใช้งานหนัก ด้วยเหตุนี้ เพื่อลดหรือป้องกันความเสียหายจากความเปราะของเส้นใยหลังจากการย้อมด้วยสีย้อมสีดำวัลคาไนซ์ ควรคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้:

① ปริมาณสีย้อมดำที่ผ่านการวัลคาไนซ์ควรจำกัด และปริมาณสีย้อมพิเศษที่ผ่านการเมอร์เซอไรซ์ไม่ควรเกิน 700 กรัมต่อบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากปริมาณสีย้อมสูง โอกาสเกิดการเปราะจึงสูง และความคงทนต่อการย้อมสีลดลง ทำให้ซักยากขึ้น

② หลังจากการย้อม ควรซักให้สะอาดเพื่อป้องกันการซักที่ไม่สะอาด และสีที่ลอยอยู่บนเส้นด้ายจะสลายตัวเป็นกรดซัลฟิวริกได้ง่ายในระหว่างการจัดเก็บ ซึ่งทำให้เส้นใยเปราะบาง

③ หลังจากการย้อมสี ต้องใช้ยูเรีย โซดาแอช และโซเดียมอะซิเตทในการบำบัดป้องกันความเปราะบาง

④ เส้นด้ายจะถูกต้มในน้ำสะอาดก่อนการย้อม และระดับความเปราะของเส้นด้ายที่ย้อมในน้ำสะอาดจะดีกว่าระดับความเปราะของเส้นด้ายหลังการย้อม

⑤ ควรตากเส้นด้ายให้แห้งทันทีหลังการย้อม เนื่องจากเส้นด้ายที่เปียกชื้นนั้นให้ความร้อนได้ง่ายในกระบวนการย้อมแบบกอง ทำให้ปริมาณสารป้องกันการเปราะของเส้นด้ายลดลง ค่า pH จะลดลง ซึ่งไม่เอื้อต่อการป้องกันการเปราะ หลังจากตากเส้นด้ายให้แห้งแล้ว ควรปล่อยให้เส้นด้ายเย็นลงตามธรรมชาติ เพื่อให้สามารถบรรจุเส้นด้ายได้ที่อุณหภูมิห้อง เนื่องจากไม่ได้ทำให้เส้นด้ายเย็นลงหลังจากตากแห้งแล้วและบรรจุทันที ความร้อนจึงกระจายตัวได้ยาก ส่งผลให้พลังงานในการย่อยสลายสีย้อมและกรดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เส้นใยเปราะได้

⑥ การเลือกใช้สีย้อมป้องกันเปราะสีดำกำมะถัน โดยสีย้อมดังกล่าวจะถูกเติมลงในฟอร์มาลดีไฮด์และกรดคลอโรอะซิติกในระหว่างการผลิต ซึ่งเมทิลคลอรีนที่ได้จะถูกวัลคาไนซ์ป้องกันเปราะสีดำ เพื่อให้อะตอมกำมะถันที่ออกซิไดซ์ได้ง่ายมีสถานะโครงสร้างที่เสถียร ซึ่งสามารถป้องกันการออกซิไดซ์ของอะตอมกำมะถันจนเกิดกรดและเส้นใยเปราะได้


เวลาโพสต์: 22 ม.ค. 2567